มิติสิ่งแวดล้อม
เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจที่มีการเติบโตปีละมากกว่า 20% องค์กรได้มีการกำหนดเป้าหมายร่วมกันเพื่อใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีการก าหนดนโยบายด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นแนวปฏิบัติในทิศทางเดียวกันสำหรับองค์กร
Realized Climate Change
Goals Net Zero
Policy Strategies
Results Resources
ความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ความตระหนักในผลกระทบที่อาจเกิดจากความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
ผลกระทบต่อองค์กร
- กลุ่มลูกค้าภาคเกษตรกรรม ได้รับผลกระทบในเรื่องของผลผลิต เมื่อรายได้น้อยลง จึงส่งผลให้ประสิทธิภาพในการชำระหนี้ลดลง
- เกิดความไม่มั่นใจจากนักลงทุน อาจส่งผลให้เกิดการขาดสภาพคล่อง รวมถึงการหดตัวของผลกำไรและอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับภาษีคาร์บอนในอนาคต
- กรณีเกิดภัยภิบัติ อาจส่งผลให้พนักงานไม่สามารถมาให้บริการที่สาขาได้ รวมถึงค่าไฟที่เพิ่มขึ้นจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง
แนวทางการรับมือผลกระทบ
- ปรับเกณฑ์ในการพิจารณาสินเชื่อสำหรับช่วงวิกฤตให้เหมาะสม ไม่ละเลยความลำบากของลูกค้า
- จัดทำนโยบายและมาตรการรับมือ เพื่อแสดงถึงการตระหนักรู ้และเตรียมความพร้อมขององค์กรต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น
- พัฒนาแอพลิเคชันเมืองไทย 4.0 สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ ให้สามารถใช้บริการได้โดยไม่ต้องเดินทางมาที่สาขา ในกรณีที่สาขาไม่สามารถเปิดให้บริการได้
เป้าหมายการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม

ระยะที่ 1 พ.ศ. 2565 - 2570
“ลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ จากปีฐาน 10% ”
ประกาศนโยบาย ริเริ่มแนวปฏิบัติ กำหนดเป้าหมายระยะสั้นสำหรั บการบริ หารจัดการทรัพยากรเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยกำหนดเป็นผลการดำเนินงาน (KPI) ของผู้บริหารและพนักงาน

ระยะที่ 2 พ.ศ. 2571 - 2575
“ลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ จากปีฐาน 40% ”
พัฒนาประสิทธิภาพการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยการนำเทคโนโลยีและพลังงานสะอาด ได้แก่ โซลาร์เซลล์ Paper-less รถยนต์พลังงานไฟฟ้า การหมุนเวียนน้ำและ Zero Waste Project มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจ โดยเป้าหมายในระยะนี้คือการปล่อยก๊าคาร์บอนไดออกไซด์ ลดลง 40%

ระยะที่ 3 พ.ศ. 2576 - 2580
“มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน”
เมื่อประสิทธิภาพของบริษัทฯ ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ในระดับที่ยอมรับได้แล้ว องค์กรจะมีแผนการกำหนดกิจกรรมหรือโครงการเพิ่มเติม ได้แก่ กิจกรรมปลูกป่า หรือกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อทดแทนปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยในชั้นบรรยากาศ ให้สามารถบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน
กลยุทธ์นโยบาย

นโยบายและแนวปฏิบัติการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและรักษาสิ่งแวดล้อม
บริหารจัดการทรัพยากรในการดำเนินงานของกิจการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับองค์กร ภูมิภาคและระดับโลก สนับสนุนการดำเนินงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซที่ส่งผลกระทบต่อสภาวะโลกร้อนและตั้งเป้าการเป็นองค์กร Net Zero รวมถึงผลักดันให้เห็นความสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อมของพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ขององค์กร
กลยุทธ์การบริหารจัดการทรัพยากร
การใช้ทรัพยากรภายในองค์กร
การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมในปี 2565 ได้มีการกำหนดตัวชี้วัดสำหรับประสิทธิภาพการดำเนินการหรือค่า Productivity ซึ่งสามารถคำนวณได้จากการแปรผกผันของปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าและยอดสินเชื่อคงค้าง(ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ล้านบาท) โดยกำหนดให้ค่า Productivity เติบโตไม่น้อยกว่า10% เมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า และสำหรับปีถัดไปกำหนดให้ค่า Productivity นี้เป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดความสำเร็จ (KPI) ขององค์กรทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

การบริหารจัดการการใช้น้ำมัน
ปัจจุบัน การดำเนินงานภายในบริษัทฯ ยังคงใช้พลังงานจากน้ำมันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประกอบกับฐานลูกค้าที่มีการขยายตัวเป็นประจำทุกปี จำนวนสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงอย่างนั้น เรายังคงคำนึงถึงผลกระทบจากก๊าซเรือนกระจกอันเป็นสาเหตุของสภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ จึงได้มีการกำหนดมาตรการในการจัดการน้ำมัน ดังนี้
ผลการดำเนินงาน
มูลค่าการผลิตเพิ่มขึ้น 19.10% จากปี 2564 ถึง 2565 ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
การบริหารจัดการการใช้ไฟฟ้า
ไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจองค์กร จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในเกือบทุกขั้นตอนของกระบวนการปฏิบัติงาน การเติบโตขององค์กร การเพิ่มขึ้นของสาขาทำให้ปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนเพิ่มมากขึ้น และเกิดมลพิษมากขึ้นอีกด้วย บริษัทฯ จึงได้กำหนดมาตรการในการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าให้คุ้มค่าและเหมาะสมที่สุด

ผลการดำเนินงาน
มูลค่าการผลิตเพิ่มขึ้น 13.19% จากปี 2564 เป็น 2565 ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

การบริหารจัดการการใช้น้ำ
น้ำเป็นทรัพยากรหนึ่งที่เป็นปัจจัยพื ้นฐานที่สำคัญต่อการดำรงชีวิต และการดำเนินธุรกิจ ในปัจจุบันเกิดปัญหาเรื่องของอุทกภัย และบางพื้นที่เกิดภัยแล้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการพัฒนาเศรษฐกิจ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคม อีกทั้งการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลทำให้ประเทศไทยประสบปัญหาวิกฤติด้านทรัพยากรน้ำอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงได้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำผ่านการรณรงค์อนุรักษ์การใช้น้ำและสื่อสารประชาสัมพันธ์ในบุคลากรทุกคนร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ และมีมาตรการ
ผลการดำเนินงาน
มูลค่าผลผลิตลดลง 30.77 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลง GHG Emission Factor สำหรับน้ำจาก 0.2843 เป็น 0.5410
การบริหารจัดการการใช้กระดาษ
การดำเนินงานขององค์กรยังคงใช้กระดาษเป็นหลัก เพื่อให้สามารถรองรับกับการขยายสาขา การเติบโตของธุรกิจกว่า 20% แน่นอนว่าปริมาณการใช้กระดาษจะต้องเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามองค์กรมีมาตรการในการลด และควบคุมปริมาณการใช้กระดาษเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางอ้อมน้อยที่สุดโดยบริษัท ฯ มีมาตรการ

ผลการดำเนินงาน
มูลค่าการผลิตเพิ่มขึ้น 9.53% จากปี 2564 ถึง 2565 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้