รายงานคณะกรรมการบรรษัทภิบาล และความยั่งยืน

นางกองแก้ว เปี่ยมด้วยธรรม

ประธานคณะกรรมการบรรษัทภิบาล และความยั่งยืน

คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและความยั่งยืน ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการบริษัท เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแล ติดตาม สนับสนุนการดำเนินการของบริษัทให้เป็นไปตามนโยบายและแนวปฏิบัติด้านการกำกับดูแลกิจการ และจรรยาบรรณธุรกิจ เพราะการดำเนินธุรกิจตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และจรรยาบรรณธุรกิจถือเป็นหนึ่งในนโยบายและพันธะกิจที่สำคัญของบริษัท ซึ่งคณะกรรมการ, ผู้บริหาร ตลอดจนพนักงานทุกคนให้ความสำคัญและยึดมั่นมาโดยตลอด ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่า การดำเนินการต่าง ๆเป็นไปตามนโยบายดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทจึงแต่งตั้งและมอบหมายให้คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและความยั่งยืน โดยมีคณะกรรมการบรรษัทภิบาล และความยั่งยืน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการบริษัท จำนวน 3 ท่าน ดังนี้

  1. นางกองแก้ว เปี่ยมด้วยธรรม
    ประธานคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและความยั่งยืน (กรรมการอิสระ)
  2. นางนงนุช ดาวาสุวรรณ
    กรรมการบรรษัทภิบาลและความยั่งยืน (กรรมการอิสระ)
  3. ดร.ศึกษิต เพชรอำไพ
    กรรมการบรรษัทภิบาลและความยั่งยืน (กรรมการ)

ในปี 2565 คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและความยั่งยืน ได้มีการประชุมทั้งสิ้น 2 ครั้ง โดยคณะกรรมการทุกท่านเข้าร่วมประชุมทุกครั้ง เพื่อพิจารณาในเรื่องต่าง ๆ โดยได้ให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการกำกับดูแลกิจการที่ดีโดยได้คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ซึ่งคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและความยั่งยืนได้รายงานผลการประชุมพร้อมความเห็นให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาอย่างต่อเนื่อง โดยมีสาระสำคัญของการปฏิบัติหน้าที่ในปี 2565 ดังนี้

  1. ให้ความเห็นชอบการทบทวน และปรับปรุงนโยบายเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดีและจรรยาบรรณธุรกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงานในปัจจุบัน และหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
  2. ให้ความเห็นชอบการทบทวน และปรับปรุงนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน
  3. ให้ความเห็นชอบ เกี่ยวกับนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้เสีย
  4. ทบทวน ติดตามผลการดำเนินงานตามแผนงานกำกับดูแลกิจการที่ดี และแผนงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ให้เป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียน (CG Code) ซึ่งกำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
  5. ให้การสนับสนุนและส่งเสริมให้บริษัทจัดกิจกรรมการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม โดยสร้างอาคารศูนย์เด็กเล็กเป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะหมุนเวียนไปตามเขตพื้นที่ของสาขา ซึ่งโครงการดังกล่าวเริ่มตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน
  6. ให้การสนับสนุน โครงการนำร่อง “เมืองไทยร่วมใจ มอบให้ชุมชน” จากการสำรวจพื้นที่จริงและความต้องการของ รพ.สต ในจังหวัดสุโขทัย พบว่าพื้นที่ชนบทส่วนมากรถยนต์ไม่สามารถเข้าถึงได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ทางคันนา หรือแม้แต่ถนนเล็ก ๆ ที่สะดวกสำหรับจักรยานยนต์เท่านั้น เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงระบบสาธารณสุขและลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนในชุมชนชนบท จึงจัดทำรถจักรยานยนต์ดัดแปลงเป็นจำนวน 20 คัน เพื่อมอบให้ รพ.สต. 20 ตำบล เพื่อมอบให้แก่โรงพยาบาลในจังหวัดสุโขทัยได้นำไปขนส่งเวชภัณฑ์ ยารักษาโรคให้แก่ผู้ป่วยตามบ้านเรือน รวมถึงรับส่งผู้ป่วยสูงอายุเละผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง

คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและความยั่งยืนมีความเชื่อมั่นว่านโยบายกำกับดูแลกิจการที่ดีจรรยาบรรณ และจริยธรรมทางธุรกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมของประเทศเป็นหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่ จะส่งผลให้บริษัทฯก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำที่มีความเจริญเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน และก่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อผู้ถือหุ้นและนักลงทุน นอกจากนี้บริษัทยังได้ตระหนักถึงการคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นอุปสรรคในการพัฒนาสังคม และเศรษฐกิจของประเทศ โดยปัจจุบัน บริษัทได้เป็นสมาชิกแนวร่วมภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน (Collective Action Coalition Against Corruption) อันเป็นส่วนหนึ่งในแนวทางการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ ได้รับรางวัลและการจัดอันดับการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีและความยั่งยืนทั้งภายในประเทศและระดับสากล ดังนี้

  1. บริษัทฯ ได้รับการประกาศผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ประจำปี 2565 ว่าอยู่ในระดับ “ดีเลิศ” (5 ดาว) ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ซึ่งจัดการประเมินโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)
  2. บริษัทฯได้รับการประเมินคุณภาพจากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ในการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2565 มีคะแนนคิดเป็น 100% อยู่ในเกณฑ์ “ดีมาก”
  3. บริษัทฯได้รับการยืนยันเครดิต ในระดับ BBB+ แนวโน้ม Stable โดยบริษัทจัดอันดับเครดิตเรตติ้ง ทริสเรตติ้ง แม้อยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัส Covid-19 ซึ่งก่อให้เกิดสภาวะเศรษฐกิจผันผวนทั่วโลก
  4. ผลจากการทำงานวิจัยเรื่อง “การวัดมูลค่าแบรนด์องค์กรใน ASEAN และในประเทศไทย บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน จากการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และมุ่งมั่นต่อการเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ที่รับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายและเป็นตัวอย่างแก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเดียวกันในด้านบรรษัทภิบาล รวมถึงการตระหนักถึงผลกระทบและการพัฒนากลยุทธ์ครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อมสังคมและบรรษัทภิบาล(ESG) เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
  5. บริษัทฯ ได้รับการประเมินผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ หรือ ESG MSCI Index ในระดับ “AA” ในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค (Consumer Finance) โดย MSCI
  6. บริษัทฯได้รับรางวัล “Thailand’s Top Corporate Brands 2022” ที่มีมูลค่าแบรนด์องค์กรสูงสุด ในหมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ ซึ่งรางวัลดังกล่าวเป็นของหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการแบรนด์และการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จากผลการดำเนินงานและการประเมินดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานของบริษัทภายใต้หลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด และคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและความยั่งยืนมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า การดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่องจะทำให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ในฐานะบริษัทจดทะเบียนบริษัทยังคงต้องปรับปรุงและพัฒนาแนวทางในการกำกับดูแลกิจการที่ดีให้สอดคล้องกับการประกอบธุรกิจของบริษัทอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่ดีในระดับสากลต่อไป